นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงอันตรายของสิ่งปนเปื้อนในน้ำท่วมขัง ว่า อันตรายที่มากับน้ำท่วมนอกจากโรคระบาดแล้ว สิ่งที่ต้องระวัง คือ เชื้อโรคและสารปนเปื้อนต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อที่ทำให้เกิดโรค เช่น แบคทีเรีย โพรโตซัว ไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของอหิวาตกโรค บิด ไทฟอยด์ โรคลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ ซึ่งอาจจะปนเปื้อนมากับขยะ และสิ่งปฏิกูลต่างๆ หากมีมากเกินขีดจำกัดจะทำให้เป็นพิษต่อร่างกายได้ รวมทั้งของเสียที่มาจากบ้านเรือนด้วย
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ที่อาจเกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากโดยสรีระ ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว เพราะอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง จะมีทั้งช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และช่องทวารที่ใช้สำหรับขับถ่าย จึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าไปได้ง่าย ซึ่งพบว่าผู้ชายจะมีท่อปัสสาวะยาวกว่าผู้หญิง ยังติดเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ในขณะที่ผู้หญิงท่อปัสสาวะมีเพียง 1 ซม. เท่านั้น โอกาสที่จะติดเชื้อจึงมีสูงกว่าผู้ชาย
จึงขอเตือนสุภาพสตรีในช่วงน้ำท่วมนี้ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ไม่ควรลงแช่น้ำหรือหากจำเป็นต้องลุยน้ำ ควรหากางเกงพลาสติก หรือถุงพลาสติกป้องกันบริเวณจุดซ่อนเร้นดังกล่าว ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆหลังจากลงแช่น้ำ หรือลุยน้ำ ให้รีบล้างทำความสะอาดทันที จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง หากมีอาการผิดปกติบริเวณช่องคลอด ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นพ.รุ่งเรือง กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดเชื้อราในช่องคลอดในช่วงน้ำท่วมขังนั้น ไม่น่าจะใช่เชื้อรา แต่น่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น